วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556

๕๔.จากวันที่เคยมีแต่... ฉัน กำลังจะเปลี่ยนเป็น... เรา




"ขอบคุณที่รักกัน”

คนพิการ .. กับการมีความรัก การแต่งงาน การใช้ชีวิตคู่ กับการอยู่ในสังคม
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ วนเวียนอยู่ในความคิดของผมเสมอ ตั้งแต่ผมตัดสินใจจะแต่งงาน
นับจากที่ผมได้สื่อออกไปว่า “กำลังมีความรัก” จวบจน “จะแต่งงาน” (๑๗ มีนาคม ๕๖)
ก็มีหลายความคิด หลายมุมมองเข้ามา ซึ่งผมก็เข้าใจ และขอขอบคุณในทุกๆ ความห่วงใย
สิ่งที่ผมจะถ่ายทอดต่อไปนี้ มาจากประสบการณ์ และความรู้สึกจากใจของผมครับ
..

ทันที ที่ผมมั่นใจ ว่าจะต้องเป็นคนพิการ (ไปตลอดชีวิต) นั้น
สิ่งที่คิดอยู่ในสมองทุกนาทีในตอนนั้น มีแต่การไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
เพราะฉะนั้น... การแต่งงานและการใช้ชีวิตคู่ เป็นสิ่งที่ทั้งตัวผม และคนในครอบครัวไม่เคยคิดว่า จะเกิดขึ้นได้เลย
ใคร ๆ ก็คงจะคิดใช่มั้ยครับว่า “จะมีใครต้องการ คนพิการมาเป็นคู่ชีวิต” บ้าง
และผม คงต้องอยู่ (ตัวคนเดียว) กับพ่อ-แม่ และน้องสาวไปจนชั่วชีวิต
และเชื่อว่า คนพิการส่วนใหญ่ ก็คงมีความคิด ไม่ต่างจากนี้เช่นกัน ..
..
หลังจากนั้น อย่างที่เคยเขียนไปแล้ว ผมเก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในบ้าน ไม่ติดต่อ พูดคุย กับใคร นอกจากคนในบ้านถึง ๑๖ ปี
จนกระทั่งปี ๒๕๔๖ ที่ผมได้พบเพื่อนคนพิการ และเริ่มยอมรับความพิการของตนเอง จึงได้เปิดตัว เปิดใจ กลับเข้าสังคม และได้เข้าทำงานช่วยเหลือเพื่อนคนพิการ ไปตามความสามารถ
ขณะที่ไปร่วมประชุมกับเพื่อนผู้พิการครั้งแรก ๆ ช่วงพักมีการฉายภาพขึ้นจอโปรเจ็คเตอร์ เป็นงานแต่งงาน
ของอดีตผู้นำคนพิการ ที่ผมนับถือมากท่านหนึ่ง คือ พ.ท.ต่อพงษ์ กุลครรชิต กับเจ้าสาวคนสวยของท่าน
ภาพเจ้าบ่าวบนรถเข็นกับเจ้าสาว (ซึ่งไม่ได้พิการ)
ได้สร้างความแปลกใจเล็กๆ ให้กับผม แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรต่อ แต่ต่อมา เริ่มสังเกตว่า เพื่อนคนพิการ ที่ได้พบเจอขณะที่ได้ออกไปทำงานด้วยกันนั้น
หลายคนต่างก็มีแฟนหรือภรรยา ทั้งดูแลอยู่ที่บ้าน ติดตามไปเป็นเพื่อน คอยช่วยเหลือดูแล ทั้งทำงาน ทานอาหารนอกบ้าน หรือไปท่องเที่ยวด้วยกัน
แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับผมคือ ส่วนใหญ่มักจะคบหากัน
หลังจากที่ พิการแล้ว
เพราะยิ่งทำงานนานไปๆ ได้พูดคุยคนพิการเยอะๆ เชื่อไหมครับ กว่าร้อยละ ๙๐ จะเลิกรากัน หลังจากอีกฝ่ายหนึ่ง พิการ
และบางทีฝ่ายที่พิการนั่นแหละ กลับผลักไสไล่ส่งให้คู่รักของตนให้ไปมี คนใหม่ที่ดีพร้อมกว่า
จากจุดนี้เอง ที่ทำให้ผมเปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่า ผู้พิการก็ไม่ใช่ว่า จะไม่สามารถ มีความรัก มีชีวิตคู่ หรือแม้กระทั่งแต่งงาน ได้ ...
ใช่แล้วครับ ผมกำลังจะแต่งงาน กับเจ้าสาวผู้น่ารัก ซึ่งมีนามว่า “น้องนุก”
ผมกับนุก เราเจอกันในเนต เริ่มต้นพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ เรารู้สึกว่า คุยกันอย่างถูกคอ หลังจากที่เธอได้อ่านบล็อคนี้ และเริ่มสานต่อความสัมพันธ์เรื่อยมาจนได้พบกันครั้งแรกเมื่อกว่า ๓ ปีที่แล้ว และนุกคอยมาช่วยเหลืองานเอกสารในบางครั้ง และเข้ามาช่วยทุกครั้งที่ผมเข้าไปประชุม สัมมนา ที่กรุงเทพ
เราได้ผ่านเรื่องต่าง ๆ มาร่วมกัน ทั้งกับทัศนคติต่างๆ ของคนรอบข้าง
ซึ่งส่วนใหญ่นั้น เข้าใจว่าเกิดจากความรักและห่วงใย ในตัวของผมนั่นเอง
กว่าสามปีที่คบหากันมา จนแน่ใจว่า เราอยากใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของเรา ร่วมกัน 
หลังจากคบหากันอยู่ระยะหนึ่ง จึงมีโอกาสได้พบกับ คุณพ่อ-แม่ของนุก
ท่านเป็นคนที่มีจิตใจดี และเมตตาต่อผม อย่างคาดไม่ถึงครับ
ไม่ได้รังเกียจที่ผมเป็นคนพิการ ซึ่งอาจจะไม่สามารถดูแล และปกป้องนุกได้อย่างเต็มที่
ผมจึงเข้าใจในทันทีว่า การที่นุกมีจิตใจที่ดีงาม เพราะมาจากเบ้าหลอมที่งดงาม
..
สุดท้ายนี้ ..ขอขอบคุณทุกความห่วงใย ทุกคำปรึกษา และกำลังใจต่อตัวผมและนุก
การแต่งงานสำหรับเรา เป็นเพียงการเริ่มต้น ถนนชีวิตสายนี้ของเรา ยังอีกยาวไกล
และต้องมีเรื่องราวอีกมากมาย ทั้งร้ายและดีที่จะผ่านเข้ามา

แต่ที่สำคัญที่สุด ต่อไปนี้ผมจะไม่โดดเดี่ยว (ลำพัง) อีกแล้ว
สี่สิบสามฝน สี่สิบสามหนาวผ่านไปแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า ต่อไปนี้ ..
ฤดูฝน จะมีคนกางร่มและยืนเคียงข้างผม ฤดูหนาวสำหรับผม จะไม่มีอีกต่อไปครับ
ขอกำลังใจให้เราทั้งสองคน และขอให้เชื่อมั่นในความรักนะครับ ผมเชื่อว่ามันมีอยู่จริง
และรอคอยทุกคนอยู่ที่ใดที่หนึ่งบนโลกนี้...

ปล.หลักคิดส่วนตัวของผม ถ้าไม่จำเป็น แฟนหรือภรรยา ไม่ควรจะทำหน้าที่ผู้ช่วยคนพิการหรือ personal assistant(PA) ไปด้วยนะครับ แม้จะควรรู้วิธีดูแลทั้งหมด แต่ถ้าให้แฟนทำหน้าที่ผู้ช่วยไปซะทั้งหมดด้วย ต้องเหนื่อยมาก และอาจจะ สรุป.. แฟนควรจะเป็นแฟน ทำงานของเขาไป  ผมก็ทำงานของผม ส่วนผู้ช่วยก็ทำหน้าที่ผู้ช่วยเช่นเดิมครับ
 
แต่งงาน คนพิการ

5 ความคิดเห็น:

  1. ขอแสดงความยินดีกับข่าวดีแบบนี้ครับ ตอนแรกนึกว่าจะเป็นแค่เรื่องที่เอามาเล่า แต่มันกลายเป็นเรื่องจริงของคุณกิตติชัย เซอร์ไพร้มากๆ

    ตอบลบ
  2. ดีใจด้วยนะพี่ กลับมาเขียนอีกที ก็มีเฮเลยครับ

    ตอบลบ
  3. ดีใจ ตื่นเต้น ตื้นตัน เมื่ออ่านจนจบ
    ศรัทธา ความรัก ความเข้าใจ เมื่อได้พบเจอ
    สามารถเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง และนำพาสิ่งดีๆ มาให้เรา
    ขอให้มีความสุขมากๆ แล้วเจอกันค่ะ 17 มี.ค.56

    ตอบลบ
  4. พลังของพื้นที่ในบล็อก ของจริงเลยนะพี่/ ขอให้มีความสถขมากๆ ครับ

    ตอบลบ
  5. เพราะการเขียนบล็อกนี่ละครับ ผมเองก็ "แต่งกับงาน" ไปเรียบร้อยแล้ว งานเพียบเลยครับ

    ตอบลบ