วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

๖.คาง กับ คอมพ์ เกี่ยวกันอย่างไร

คาง กับ คอมพ์ เกี่ยวกันอย่างไร


จากบทที่ ๔ ผมได้เล่าถึงที่มาของการใช้คางควบคุมรีโมท ไปบ้างแล้วนะครับ บทนี้จะเล่าถึงการได้พบสิ่งมหัศจรรย์สำหรับผมเลยก็ว่าได้ นั่นคือ... คอมพิวเตอร์นั่นเอง


"โอ้ว... พระเจ้า เราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ" ต้องขอบอกว่า อยากจะอุทานคำนี้เลยครับ ทั้งๆ ที่ ตอนซื้อมาเมื่อปี 2540 เนี่ย ยังไม่รู้เลยว่า มันใช้ยังไง หรือแม้กระทั่งว่า เปิด ปิดยังไง แต่ที่ซื้อมาก็เพราะว่า น้องสาวจะต้องใช้เรียนและทำการบ้าน แล้วได้ยินเขาว่ากันว่ามันมีประโยชน์มหาศาล เอาละ... ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็แล้วแต่...ในที่สุด วันหนึ่ง มันก็มาตั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นงาม อยู่ในห้องผมจนได้

นอนมองแล้วมองอีก อยากเล่นจังเลย แล้วเราจะทำไงกะมันดีวุ้ย เออ! งั้นลองสูตรเดียวกะรีโมทดูดีกว่า "เอาเม้าส์มาไว้ตรงคางให้หน่อยสิ เผื่อเอาคางเลื่อนได้" ผมบอก "แล้วจะใช้ได้ไง ลูกกลิ้งมันอยู่ด้านล่าง" คนหยิบมาวางบอก จริงสิ ถ้างั้นทำไงดีล่ะ? ในตอนช่วงแรกของการใช้คอมพ์เลยต้อง "ใช้งานโดยคำสั่งเสียง" ไฮเทคไหมครับ! วิธีใช้คอมพ์แบบนีคือ เรียกชื่อคนเล่นแทน แล้วบอก เลื่อนไปทางนี้สิ คลิกตรงนี้ เลื่อนไปทางนั้นหน่อย โอย! ลำบากจริง กว่าจะทำอะไรได้สักอย่าง ใช้คำสั่งงานด้วยเสียงไป3-4วัน ทั้งคนพูด คนฟัง ชักเบื่อ (บางที มีคำสั่งเสียกลับมาอีกตะหาก แน่ะ) เลยคิดว่าจะถอดใจ เลิกเล่นแล้ว


นอนดูคนอื่นอยู่เกือบเดือน ใจก็อยากเล่น แต่ไม่รู้จะทำไง วันหนึ่ง ดูรายการ ประเภท ไอที ทางช่อง 9 เห็นเม้าส์ตัวหนึ่ง เป็น trackball คือ มันมีลูกกลิ้งอยู่ด้านบน เหมือนในภาพน่ะครับ (ตัวสีดำ)


เอ๊ะ...อย่างนี้ เราน่าจะใช้ได้นะ ให้คนหาซื้อมาลองดีกว่า แล้วทำวิธีเดียวกันกับการใช้รีโมทเลย เย้.......อีกที ใช้ได้จริงๆ เป็นความดีใจที่สุดอีกครั้ง หลังจากนั้น ของเล่นใหม่ชิ้นนี้ ก็กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิต ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง ท่องเนต ทำได้ด้วยตัวเองเกือบทุกอย่างเลย(แต่ต้องมีคนช่วยเอาเม้าส์มาวางให้ก่อนนะ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "อินเตอร์เนต" เปรียบเสมือนโลกใบใหม่ทั้งใบ ที่ที่ผมหาสิ่งที่อยากได้ อยากรู้ อยากเห็น เกือบทุกอย่าง ทุกด้าน หลากหลายทั้งข้อมูล ข่าวสาร เพื่อนใหม่ๆ ฯลฯ


ตั้งแต่นั้น ผมเล่นทุกวัน เรียนรู้การใช้งาน หาความรู้ใหม่ใส่ตัวไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นคนหนึ่งที่คนมักจะมาถามเวลาคออมพ์มีปัญหา
วันนี้ผมต้องใช้เม้าส์ตัวใหม่(ในรูป) เนื่องจากตัวเก่าได้หมดสภาพไปตามกาลเวลา

จริงๆ แล้วการใช้เม้าส์ของผมในลักษณะนี้ คงไม่ถูกสุขลักษณะนัก เพราะมันทำให้ผมมีอาการปวดต้นคอเรื้อรัง แต่ทำไงได้ ในเมื่อการจะหาเม้าส์เหมาะสม ถูกสุขลักษณะ มาใช้สักตัว

จากข้อมูลที่ทราบมา นอกจากจะมีราคาสูงมากแล้ว ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากในการหามาใช้งานอีก เพราะต้องใช้ในท่านั่ง แล้วผมไม่สามารถอยู่ในท่านั่งได้นานๆ ที่จริงตอนผมออกสู่สังคมในช่วงแรก ผมเคยไปทดลองใช้ เม้าส์ และซอฟท์แวร์ ของอ.ท่านหนึ่งจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ชื่อดังแห่งหนึ่ง

แต่พอมาใช้งานจริงก็มีข้อจำกัดมากมาย จากทั้งสภาพความพิการของตัวผมเองอย่างที่บอก และทั้งจากตัวอุปกรณ์ ซึ่งผู้ทำมีความตั้งใจสูง (แต่งบปรมาณที่ได้รับมา เขาคงทำได้เท่านั้นมั๊ง )


สรุป ผมยังคงต้องใช้เม้าส์แบบนี้ต่อไป และใช้โปรแกรม On Screen Keyboard ที่ติดมากับ Windows XP สำหรับพิมพ์ ดังนั้น กว่าจะพิมพ์ออกมาแต่ละคำๆ ให้อ่านใน Blog นี้ ผมจึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่าตัวครับ
นี่แหละครับ..........สาเหตุของความขี้เกียจ ที่เคยเกริ่นไว้ในบทแรกๆ

3 ความคิดเห็น:

  1. นี่แหละครับ ที่พี่ลำบากกว่าผม เอาใจช่วยครับ รวมกันฟันฝ่า หนทาง เพื่อผู้พิการรุนแรง สิ่งไหนที่พี่เคยทำ แนะนำผมด้วย สิ่งไหนที่ผมทำได้มากกว่าพี่ ผมจะทำแทนพี่ ผมเริ่มสนุกกับงานลักษณะนี้แล้ว รู้สึกว่าได้ทำเพื่อส่วนรวมครับ

    ขอบคุณครับ
    ปรีดา ลิ้มนนทกุล
    ผู้ทุพพลภาพมืออาชีพ
    http://preedastation.blogspot.com

    ตอบลบ
  2. ลืมบอกพี่ไปอีกเรื่อง "คาง กับ คอมพ์" ชื่อบทความนี้ พี่ create ได้ดีมากครับ

    ขอบคุณครับ
    ปรีดา ลิ้มนนทกุล
    ผู้ทุพพลภาพมืออาชีพ
    http://preedastation.blogspot.com

    ตอบลบ
  3. ยอมรับในความพยายามนี้จริงๆ
    ผมเคยเจอในTV ผู้หญิงคนหนึ่งเคยเป็นแอร์ฯต่อมาเป็นเหมือนชัยนี่แหละแล้วก็เขียนหนังสือโดยใช้คอมฯที่มีก้านมาคาบที่ปากเพือใช้พิมพ์่
    จาก แหลม

    ตอบลบ