วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2551

๒๖.ดูงานเมืองแปดริ้ว-ไหว้หลวงพ่อโสธร

วันที่ ๑๗ มิถุนายน ที่ผ่านมา คณะทำงาน"ศูนย์ IL ชลบุรี" ได้รับการเชิญชวนจาก พี่ไก่ และเพื่อนๆ (ทีมพยาบาลที่เป็นหน่วยลงพื้นที่เยี่ยมคนป่วยเรื้อรัง และคนพิการตามบ้าน ของ รพ.ฉะเชิงเทรา) รวมทั้งพี่หนุ่ย (กิตชัย) ผู้นำคนพิการ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้ไปดูงาน และความเป็นอยู่ของคนพิการที่นั่น

คนแรก พี่หวัน(เสื้อเขียว นั่งที่ประตู) คนนี้ มุขเยอะ ฮามาก ส่วนพี่ๆ เสื้อสีชมพู คือพี่ๆ พยาบาลใจดีจาก รพ.ฉะเชิงเทรา

อีกคนครับ คนที่เห็นข้างหลัง ใส่เสื้อสีขาว(ที่ไม่เอารูปด้านหน้ามาโชว์ เพราะเขายังไม่พร้อมจะเปิดตัวครับ) ส่วนคนที่ใส่เสื้อสีเขียว นั่งเท่อยู่กลางรูปคือพี่หนุ่ยครับ

ส่วนเสื้อขาว(อีกคน) คนนี้ชื่อสมศักดิ์ อาศัยอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น เดินมาคุยกับเราด้วย

ออกมารอขึ้นรถ เจออีกคนนึง เดินไปซื้อของมา ผ่านมาเห็น จึงเข้ามาทักทาย

หลังจาก ใช้เวลาพบปะพูดคุย กับคนพิการในพื้นที่ มาพอสมควรแล้ว พบว่า...จังหวัดฉะเชิงเทรา นอกจาก "เครือข่าย เหยื่อเมาแล้วขับ" ที่พี่หนุ่ยเป็นแกนนำอยู่นั้น

ยังไม่มีกลุ่มคนพิการ ที่รวมกันเพื่อทำงานด้านคนพิการใดๆ อีกเลย ในเบื้องต้น จึงพูดคุยกับ พี่หนุ่ย และพี่ไก่ ถึงแผนการฟอร์มทีมงาน กลุ่มคนพิการเพื่อบุกเบิก ในจังหวัดฉะเชิงเทรา จนถึง ๑๕.๓๐ น. พี่ๆ พยาบาลจึงขอตัวเข้าไปที่ รพ.

พวกเราแอบเฮ(ในใจ) กันเล็กๆ เพราะหวังไว้ว่า...ถ้าเสร็จงานเร็ว ก่อนกลับบ้านจะได้ไปไหว้หลวงพ่อโสธรกัน ก่อนที่ที่วัดหลวงพ่อโสธรปิดเวลา ๑๖.๐๐ น.

วัดโสธรวรารามวรวิหาร

เนื่องจากพวกเรา ไม่ได้มาไหว้หลวงพ่อมานาน บางคนตั้งแต่พิการก็ไม่เคยมาเลย เป็นเวลาก็กว่า ๑๐ ปีแล้ว พอไปถึง จึงเห็นว่าบริเวณวัด มีความเปลี่ยนแปลงไปมาก

พวกเราทั้ง ๓ คน ซึ่งใช้รถเข็นไฟฟ้าทั้งหมด สามารถเข้าถึงด้านหน้าโบสถ์เก่าได้อย่างสะดวก

ไหว้ที่ด้านหน้ากันก่อน เพราะไม่แน่ใจว่า เขาจะอนุญาตให้เราเข้าภายในโบสถ์ได้หรือเปล่า...

เอาไงกันดี...ปราณี(เสื้อสีชมพู) มาถึงนี่แล้วก็อยากเข้าไปปิดทองด้านในอะ น้อยหน่า(คนใส่เสื้อสีฟ้า) จึงเข้าไปถามป้าที่ขายธูป เทียน บูชาพระ ป้าบอก "เข้าไปได้เลย"

ตรงประตูมี อุปสรรค เป็นทางต่างระดับเล็กน้อย แต่ก็ ดีใจมาก เพราะไม่ได้เข้ามาข้างในนานมากแล้ว

เพื่อนๆ ที่พอใช้มือได้ จึงเข้าไปปิดทองด้วยตัวเอง(เสียดาย ที่ช่างภาพเก็บภาพไม่ทันครับ)

ชมบรรยากาศภายในชั่วครู่

ตรงนี้แหละครับ...ที่เป็นปัญหาเวลา เข้า ออก แต่บังเอิญมี ที่เช็ดเท้าขนาดใหญ่ หนา วางหนุนอยู่พอดี จึงไม่ลำบากอะไรนัก

ออกจากโบสถ์ พบคนพิการชาวไต้หวันมาไหว้พระเช่นกัน จึงเข้าไปทักทาย

เป้าหมายต่อไป โบสถ์ใหม่ครับ งดงามมากจริงๆ ครับ

เข้าประตูด้านข้างโบสถ์ด้านนอก เจออุปสรรคนิดหน่อย แต่ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลืออย่างดีมากครับ

ตรงนี้เป็นทางเข้าภายในโบสถ์ด้านใน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์หลวงพ่อ เจออีก ๑ จุด

ภายในโบสถ์ งดงามมากครับ เจ้าหน้าที่บอกว่า หลวงพ่อโสธร คือองค์เล็กกว่าที่ประดิษฐานอยู่ตรงกลางครับ

มีทั้งชาวไทย และต่างชาติกำลังกราบหลวงพ่อ

ส่วนตัวผม อาจจะเป็นเพราะบารมีหลวงพ่อ รวมไปถึงบรรยากาศภายในโบสถ์ ทำให้หายเหนื่อย และจิตใจสงบลงได้ทันทีที่เข้าไป อย่างน้อยก็ ในชั่วขณะหนึ่ง

ไม่น่าเชื่อว่า จะได้ถ่ายรูปหน้าองค์หลวงพ่อ รู้สึกแปลกเล็กน้อย ที่ไม่ได้นั่งกับพื้น เหมือนคนอื่นๆ

เพดานโบสถ์สูงมาก ถูกตกแต่งไว้อย่างงดงาม

ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกก่อนกลับ

ภาพสุดท้าย

มีเรื่องน่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง ผมจำได้ว่า...วัดหลวงพ่อโสธร ที่เคยมาตอนเด็กๆ จะมีคนพิการ หรือไม่พิการก็แล้วแต่ มาดำรงชีพด้วยการ "ขอทาน" อยู่หลายๆคน

แต่มาคราวนี้ไม่เห็นเลยซักคนนึง ไม่แน่ใจว่า เพราะอะไร... แต่ผมรู้สึกดีมากๆ ที่ไม่เห็นภาพแบบนั้น ในสถานที่ๆ คนมากมายให้ความศรัทธา เคารพนับถืออย่างสูง

ที่สำคัญ ดีใจมากๆ ที่คนนั่งรถเข็นอย่างพวกเรา สามารถเข้าถึงทุกสถานที่ในเขตวัด แม้มีอุปสรรคบ้าง

แสดงว่าทางวัดให้ความสำคัญเรื่องนี้พอสมควร(ทุกที ผมไปวัดไหน แทบไม่เคยได้เข้าโบสถ์เลย) แต่ถ้าปรับอีกสักหน่อยจะสมบูรณ์แบบเลยละครับ

ไปครั้งนี้ผมไม่ได้บนบานอะไร จากหลวงพ่อเป็นพิเศษ ได้แต่ขอพรท่าน ช่วยเป็นกำลังใจให้ทีมพวกเราทั้ง ทางชลบุรี และแปดริ้ว ในการสร้างกลุ่มคนพิการ(Self Help Group) ในเมืองแปดริ้ว ให้เกิดผลด้วยครับ

3 ความคิดเห็น:

  1. เห็นแล้วก็คิดถึง ก่อนผมรถคว่ำ ผมจะไปสักการะท่านทุกปีครับ หลังรถคว่ำผมไปมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่ได้ลงไปสักการะ เพราะรู้สึกเกรงใจคนที่พาไปมากๆ ครับ ได้อ่าน ได้เห็น ได้คิดถึง ก็มีความสุขเช่นกันครับ

    ขอให้การตั้งกลุ่ม Self Help Group สำเร็จนะครับ เรามาช่วยกันคนละไม้ คนละมือ ทางผมคงจะทำได้เพียงการสร้างงานให้สมาชิกผู้พิการที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ก่อน เพื่อละลายสมาชิกเหล่านี้กลับเข้าไปในสังคม ลดภาระสังคม และสามารถอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี

    ส่วนการสร้างกลุ่มฝากพี่ๆ ทุกคนช่วยทุกๆ คนด้วย และถ้าการสร้างกลุ่มเข้มแข็งขึ้น หรือพอรวมตัวกันได้ ทางผมพร้อมจะทำพัฒนาโปรแกรมปฏิบัติการ และสนับสนุนทุกกลุ่มร่วมสร้างรายได้ตามข้อกำหนดของ PWDOM นะครับ

    ตอบลบ
  2. ผมเคยไปล่าสุดตอนที่ยังเดินได้ปี2536 ตอนนั้นกำลังมีการก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างกองอยู่เต็มไปหมด เด็กขายนกก็เยอะ สร้างเสร็จสวยดีครับ ดูจากรูป โชคดีจังที่ได้เที่ยวบ่อย
    จาก แหลม อุบลฯ

    ตอบลบ
  3. ผ่านเข้ามา อ่านไปหลายตอนเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้ค่ะ แต่ละคนก็มีบางมุมที่โชคร้าย แต่ก็มีหลายมุมที่โชคดีนะคะ...แม่ของเด็กออทิสติค

    ตอบลบ