วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

๓.ความเป็นอยู่ปัจจุบัน และชีวิตประจำวัน

บทนี้ขอแบ่งเป็น ๒ ส่วนนะครับ

๑.ชีวิตภายในบ้าน ซึ่งเป็นส่วนมากกิจวัตรประจำวันเกือบทั้งหมดจะอยู่บนเตียง ที่มีที่นอนลม เพื่อป้องกันแผลกดทับ ตรงนี้ขอเล่าหน่อยนะครับ
คือ... เวลาที่มีคนที่ทำงานด้านคนพิการ มาหาที่บ้านมักจะถามบ่อยๆว่า "ทำไม ยังนอนเตียงรพ.อยู่ล่ะ ดูเหมือนคนป่วยเลย... คนพิการไม่ใช่คนป่วยนะ" จริงอยู่ ในแนวคิดด้านคนพิการยุคใหม่ คนพิการไม่ใช่คนป่วย คนป่วยมีวันหาย
แต่สำหรับคนพิการ หลังจากผ่านการฟื้นฟูแล้ว จะคงสภาพความพิการอยู่อย่างนั้น จะมีป่วยบ้างก็เหมือนๆ กับคนทั่วๆไป แต่สำหรับผม ที่ยังนอนเตียงรพ. น่าจะเป็นเพราะความสะดวกในการทำกิจวัตรหลายๆ อย่าง เช่น เช็ดตัว แปรงฟัน ขับถ่าย การใช้คอมพิเตอร์ การใช้เครื่องช่วยยกตัว
ซึ่งการปรับได้หลากหลายของเตียงรพ.มีประโยชน์มาก เล่ามาถึงตรงนี้ เดี๋ยวผู้ที่อ่านบทก่อนหน้าจะงง เอ๊ะ...ไหนว่าใช้การได้แค่ไหล่ กับศรีษะไง แล้วใช้คอมพิเตอร์ได้ไงล่ะ ตรงนี้ขอเล่าในบทต่อๆไปแล้วกันนะครับ

๒.ชีวิตในสังคม ตรงนี้ต้องเริ่มจากเมื่อปี2546 เมื่อ ๕ ปีที่แล้ว คงสงสัยกันว่า ทำไม มาเริ่มเอาปี 46 แล้ว 10 มิ.ย. 2529- ต้นปี 2546 ล่ะ หายไปไหน
ขอบอกในเบื้องต้นว่า ชีวิต ช่วงนั้น ผมตัดตัวเองออกจากสังคมเลย คือเรียกว่า ช่วงนั้น ไม่มีคนชื่อ "กิตติชัย เนตรพิศาลวนิช" อยู่ในโลกเลยก็ว่าได้
ผมไม่ต่อบัตรประชาชน ไม่ไปเลือกตั้ง ไม่ไปหาหมอนอกบ้าน ไม่ทำธุรกรรมใดๆ ทั้งส่วนตัว และทางราชการทั้งสิ้น ขนาดจะออกนอกบ้านให้เพื่อนบ้านได้มีโอกาสยลโฉมยัง นับครั้งได้ ช่วงนี้มีเรื่องเล่าเยอะมาก แต่ขอกลับมาช่วงปี 46ถึงปัจจุบันก่อนนะครับ
ตอนนี้มีงานอาสาสมัครอยู่ 2 งาน ที่ทำมาตลอด ๕ ปีที่ผ่านมา งานแรก คือ ที่ศูนย์พระมหาไถ่เพื่อการดำรงชีวิตอิสระของคนพิการ ( RILC) และอีกองค์กรหนึ่ง ซึ่งเข้าไปมีส่วนร่วมตลอดมา คือ งานของ "เครือข่าย เหยื่อเมาแล้วขับ" ในมูลนิธิเมาไม่ขับ ซึ่งมั้งสองงานนี้ ได้ให้โอกาส และแง่คิด ต่างๆแก่ผมอย่างมากมายเลยครับ

1 ความคิดเห็น:

  1. เริ่มยาว แล้วพี่ชัย วิญญาณ blogger เริ่มเข้าสิง ลุยๆ เลยครับ

    ตอบลบ