วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2551

๒๐.ความประทับใจใน...มนุษย์ หลังเรื่องร้อนๆ (ตอน ๒ จบ)

จากตอนที่แล้ว....

๑๙.“รวมพลคนพิการ สร้างงาน สร้างชีวิต“ ร้อนๆ

หลังจาก ผมมานั่งผึ่งแอร์ในห้องพยาบาลได้ ๑๐ กว่านาที ก็มี ชายชรา รูปร่างสูง ใหญ่ หน้าตาใจดี (สอบถามแล้ว อายุ ๖๖ ปี) เข็นรถเข็น ที่มีเด็กพิการคนหนึ่ง (ดูจากรูปร่าง หน้าตา ผมสั้นๆ น่าจะเป็น เด็กชาย ราวๆ ๑๐ ขวบ) นั่งมาด้วย

จากการที่(แอบ)ฟังการพูดคุยระหว่าง คุณลุง กับ ผู้ช่วยพยาบาลที่ดูแลห้องพยาบาลอยู่ จับใจความได้ว่า...น้องเขาอาเจียน โดยไม่รู้สาเหตุ พาไปพบหมอจาก รพ. แห่งหนึ่ง ที่มาตั้งโต๊ะในงาน ก็ตอบไม่ได้ แล้วโบ้ยให้ไปหาหมอเด็กที่ รพ.ลูกเดียว


แต่ ลุงเขาคิดว่า น่าจะเป็นเพราะ อากาศในสถานที่จัดงาน ร้อนไป และเมื่อคืน น้องเขานอนไม่พอ มากกว่า จึงขอมานอนพักสักครู่ เผื่อว่าจะดีขึ้น

หลังจาก การพูดคุย คุณลุง จึงอุ้มน้องขึ้นนอน บนเตียงพยาบาล ระหว่างที่ รอการปฐมพยาบาล จากผู้ช่วยพยาบาล ใจดี ผมสังเกตเห็น สายตาของชายชรา ยืนมอง หนูน้อยที่นอนหลับ อยู่บนเตียง ด้วยความห่วงใย อยู่ตลอดเวลา

จึงชวนคุยตามประสา คนไม่ชอบความเงียบ "คุณลุงมาจากไหนครับ" "อายุเท่าไหร่" "มีอาชีพอะไร" ฯลฯ

ผู้ช่วยเหลือผม ก็สะกิดว่า "จำไม่ได้เหรอ เคยเจอที่งานสนับสนุนคนพิการที่ ศาลาประชาคม อ.สัตหีบ ไง" ค่อยนึกขึ้นได้ว่า เคยเห็นที่ไหน มิน่าล่ะ คุ้นๆ หน้า (คนชอบบอกว่า นอกจากเป็นอัมพาตแล้ว ยังเป็นอัลไซเมอร์ด้วยเหรอ จำใครไม่เคยได้เลย)

หลังจาก บทสนทนา แบบพื้นฐานประเภท แนะนำตัวเบื้องต้น ผ่านไป เริ่มเข้า...เรื่องที่น่าสนใจครับ เริ่มจาก...เด็กคนนี้ เป็น เด็กผู้หญิง หนัก ๔๐ กิโลกรัม อายุ ๑๗ แล้ว(คุณพ่อบอกด้วยสีหน้ายิ้มๆ ว่า...เป็นสาวแล้ว ทำบัตรประชาชนแล้วนะนี่ย)

มีความพิการเนื่องมาจาก ขาดอ๊อกซิเจน ไปเลี้ยงสมองในช่วงแรกเกิด ทำให้ ไม่สามารถ ช่วยเหลือตัวเองได้เลย มีการ รับรู้ และตอบสนอง ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วที่เขานอนไม่พอ เพราะวันก่อน ลุงไปธุระต่างจังหวัด เขาไม่เห็นลุง เลยไม่ยอมนอน

ผมชวนคุยไปด้วย ระหว่างที่ ผู้ช่วยพยาบาล กำลังให้ น้ำเกลือแร่ และยาลดการอาเจียน คุยไป คุยมา ก็ได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากขึ้นไปอีก น้องผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ลูก หรือ หลานของลุง อย่างที่ผมคิดแต่แรก คุณลุงเป็นข้าราชการทหาร(บำนาญ) ย้ายมาอยู่ที่สัตหีบ เมื่อ ๑๐ กว่าปีที่แล้ว

เป็นเพื่อนบ้านของ ครอบครัว ของน้อง พอมีน้องคนนี้ ออกมา พ่อ แม่ ก็มีปัญหา ถึงขั้นเลิกรากันไป ลุงสงสาร เลยขอมาเลี้ยงเป็นลูก ลุงบอกว่า....ทำให้ทุกอย่าง ยิ่งกว่าลูกแท้ๆ อีก ตั้งแต่ป้อนข้าว ป้อนน้ำ อาบน้ำ แต่งตัว การขับถ่าย และตอนนี้ตัดมดลูกออกไปแล้ว เพื่อลดปัญหาเรื่องประจำเดือน

ตัวลุงเอง มีลูก ๔ คน โตกันหมดแล้ว ส่วนใหญ่จะไปทำงานต่างจังหวัดกัน ตอนนี้กินบำนาญ กับค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ไม่เดือดร้อนอะไร พออยู่ได้ ระหว่างที่สนทนากันไป ลุงก็นั่งยิ้ม อยู่ข้างเตียงพยาบาล จ้องมองดูลูกสาว พร้อมหอมแก้มไปด้วย ตลอดเวลา ถ้าน้องเขาขยับตัว ลุงก็จะพูด "นอนเถอะ...ลูก พ่ออยู่นี่ ไม่ไปไหนหรอก"

ไม่รู้ว่าผมถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกได้ครบถ้วนหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ช่วงเวลานั้น ผมรู้สึก...ตื้นตัน อย่างบอกไม่ถูก ได้แต่นั่งมอง อมยิ้มปริ่มน้ำตา ด้วย ความอิ่มอก อิ่มใจ

ทำงานกับคนพิการมาก็หลายปี เรื่องดีๆ น่าประทับใจก็เห็นมาเยอะ แต่เรื่อง ผัวเลิกเมียพิการ เมียเลิกผัวพิการ ลูกไม่ดูแล พ่อแม่ที่พิการ พ่อแม่ ดุด่า ลูกพิการ ก็เห็นมาไม่ใช่น้อย แต่สำหรับ พ่อลูกคู่นี่...สายเลือดตัวเองก็ไม่ใช่ แต่กลับใส่ใจยิ่งกว่าลูกซะอีก

คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากทราบว่า...ลุงยังไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มใดๆ เลย ก่อนจากกัน จึงพาไป รู้จักกับ ผู้ปกครองเด็กพิการคนหนึ่ง(คนกลางในรูป) ในชมรมเพื่อเด็กพิการ จ.ชลบุรี
ที่ต้องแนะนำให้รู้จักกัน เพื่อเป็นการสร้าง Self help group ขึ้น และผมมีความรู้เรื่องเด็กพิการน้อยมาก คงให้ข้อมูลอะไร ไม่ได้ เท่ากับผู้ผ่านประสบการณ์ตรง

คุยกันจนกลับบ้าน ต้องขอโทษอย่างยิ่ง นอกจาก...ผมจะไม่ได้ถ่ายรูป ลุงกับลูกสาวเอาไว้แล้ว ไม่อยากเชื่อตัวเอง เลยว่า "ชื่อ" ของลุง ผมก็ไม่ได้ถาม รู้แต่ว่าลูกสาว ชื่อ "น้องไอซ์" แต่ไม่เป็นไร อีกไม่นานนี้ คงได้พบกันอีก คราวนี้ ต้องขอถ่ายรูป พร้อมลายเซ็นต์ เลยครับ

ที่อยากเล่าเรื่องนี้ เพราะกลับมาแล้ว คิดต่อ ว่า ถึงแม้ว่าการ รับ น้องไอซ์ มา บางที...อาจจะเป็น การเติมเต็ม ในชีวิต ของคุณลุง ก็ตาม แต่ถ้าลุงคนนี้ ไม่รับน้องไอซ์ ไว้ ป่านนี้ ชีวิตน้องเขาจะเป็นอย่างไร?

ผมอยากให้บ้านเรามี ระบบ"รัฐสวัสดิการที่ดี" ซึ่ง เชื่อว่า...น่าจะลดปัญหา ตัวใคร ตัวมันในสังคม สามารถบรรเทาทุกข์ ที่ทำให้คนต้องทอดทิ้งกันยามลำบาก ให้ลดน้อยลงไปบ้าง หรือจะเป็นเพียงแค่ "ยุคพระศรีอารย์" ที่ผมฝันถึง เท่านั้น ยาก...ที่จะเป็นไปได้ ในเมืองไทย

3 ความคิดเห็น:

  1. เข้าใจเลยครับ แต่ของผมอาจจะเป็นคนละเหตุผล ที่มาอยู่กับครอบครัวบุญธรรม ส่วนเรื่องรัฐสวัสดิการก็เห็นด้วยครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ26 เมษายน 2551 เวลา 16:54

    เห็นด้วยกับสวัสดิการที่รัฐควรมีให้ค่ะ ยังไงบทต่อไปคงได้เห็นรูปน้องไอซ์กับคุณลุงนะ อยากรู้จังว่าคุณลุงใจดีคนนี้หน้าตาเปงไงอ่ะ

    ตอบลบ
  3. เมื่อไหร่หนอเมืองไทยจะมีรมต.พัฒนาสังคมฯ และรมต.สาธารณะสุขที่เหลียวแลดูแลคนพำการให้มากกว่านี้บ้าง
    ผมออกนอกบ้านก็มีอาการคล้ายๆคุณชัยนี่แหละคือ หน้ามืด หายใจขัดๆเหมือนขาดออกซิเจน เลยชอบเลือกอยู่กับบ้าน
    จาก แหลม อุบลฯ

    ตอบลบ